เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหยีตา หัวเราะร่าทั้งวัน ผิวหน้าของเราก็เปลี่ยนรูปไปได้ตามอารมณ์ ซึ่งเป็นสัญญาณของผิวสุขภาพดี จะเปลี่ยนไปซักกี่หน้าก็ไม่มีสะดุด เบื้องหลังของผิวอารมณ์ดีอยู่ที่พระเอกชื่อคอลลาเจนช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เด้งคืนรูปได้อย่างรวดเร็วแต่พระเอกก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป เพราะวันเวลาแสงแดดและสิ่งแวดล้อมล้วนเป็นสาเหตุพรากคอลลาเจนจากผิวได้ทุกนาที ดร.แมรี่ เสรฐภักดี PhD สาขา Molecular Biology และกรรมการผู้จัดการ บริษัท Collagena จำกัดจะมาให้คำแนะนำว่าจะรักษาคอลลาเจนให้อยู่นานได้อย่างไร
|
ทำอย่างไรเพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย |
|
โปรตีนคอลลาเจน (Native Collagen) ประกอบด้วยโมเลกุลขนาดใหญ่มาก ยากแก่การย่อยสลายและซึมซับเข้าไปในร่างกาย จึงเหมาะแก่การใช้ในการทำศัลยกรรม (implant) มากกว่าการบริโภค ดังนั้นเพื่อให้เหมาะแก่การบริโภค จึงต้องจำเป็นจะต้องนำคอลลาเจนไปย่อยสลายเป็นคอลลาเจนเป็ปไทด์ (Collagen Peptide) ที่มีขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนหลายเท่า
จากผลการวิจัยพบว่า คอลลาเจนเป็ปไทด์ สามารถกระตุ้นให้เซลล์ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเป็ปไทด์จากโปรตีนอื่น ๆ เช่น เป็ปไทด์ถั่วเหลือง ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่า การบริโภคคอลลาเจนเป็ปไทด์ในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น
ปริมาณของคอลลาเจนเป็ปไทด์ที่บริโภค มีผลมากต่อการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน โดยควรบริโภควันละ 3-6 กรัม ขณะท้องว่างก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2-3 เดือน ขึ้นไป ซึ่งการจะใช้คอลลาเจนเป็ปไทด์ให้ได้ผลต้องใช้อย่างต่อเนื่อง ในคอลลาเจนจะมีกรดอะมิโน 2 ตัว คือ Hydroxyproline และ Hydroxylysine ซึ่งจะไม่พบอยู่ในโปรตีนทั่วๆ ไป หากร่างกายมีการถูกกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ระดับของกรดอะมิโนทั้งสองตัวก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากปริมาณของคอลลาเจนเป็ปไทด์แล้ว ขนาดของคอลลาเจนเป็ปไทด์ที่บริโภค เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน ถ้าขนาดใหญ่เกินไป ร่างกายก็จะซึมซับได้ยาก แต่ถ้ามีขนาดเล็กเกินไป ร่างกายก็จะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็ปไทด์นั้น เป็นเป็ปไทด์คอลลาเจน และจะทำให้ไม่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจน
การกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนมีประโยชน์อย่างไร |
|
นักวิทยาศาสตร์ในเยอรมัน ญี่ปุ่น และสหรัฐ ได้วิจัยค้นพบว่าคอลลาเจนมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มปริมาณธาตุที่สำคัญให้แก่กระดูกและสร้างความคงทนให้แก่กระดูก อีกทั้งยังช่วยสมานแผลและบรรเทาโรคข้อต่างๆได้ เช่น Osteoarthritis และ Osteoporosis การวิจัยเบื้องต้นแสดงว่าคอลลาเจนเป็นตัวช่วยทำให้ผิวหนังเต่งตึงขึ้นลดริ้วรอยบนใบหน้า และช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและเส้นผม
|
|
ส่วนผสมสำคัญ
อไฮโดรไลส์คอลลาเจน 500 มิลลิกรม. ต่อ 1 แคปซูล
|
|
วิธีรับประทาน
ให้รับประทาย 2-4 แคปซูลช่วงที่ท้องว่างๆ 1ครั้งก่อนนอนคะ และดื่มน้ำตามเยอะๆ
ความคิดเห็นส่วนตัว
จริงๆแล้วคอลลาเจนชนิดทานเสริม จะเกิดผลเฉพาะกับคนที่มีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไปเท่านั้น
สำหรับเจนแล้วพอได้ทานเจ้า CLG500 ได้ 2 อาทิตย์ รู้สึกว่าผิวเนียนขึ้นและละเอียดขึ้น
แต่เพราะว่าเจนยังอายุ20 ต้นๆจึ่งไม่เห็นความแตกต่างมากเท่าไหร
ข้อดี
1. ทานง่าย
2. แบรนด์ผู้ผลิตได้รับใบอนุญาต จาก
Food and Drug Adminstration และรวมถึงได้รับ Certificate of Analyais อีกด้วย จึ่งมีความน่าเชื่อถือสูง
3. Packaging ดีมาก เป็นขวดแก้ว ซึ่งสามารถเก็บอาหารเสริมได้นานกว่าขวดแบบอืน
4. สามารถทานพร้อมกับวิตามินตัวอืนๆได้ ไม่มีความอัตรายใดๆ
5. เป็นคอลลาเจนเป็ปไทด์ 100% ดังนั้นร่างกายจึงได้รับคอลลาเจนเป็ปไทด์ใน ปริมาณที่เต็มที่ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ สูงสุดใน
ข้อเสีย
1. มีกลิ่นคาวบ้างเวลาทาน แต่ไม่มากพอกินน้ำตามลงไปก็ไม่เหม็น (ทานง่ายกว่า collogenแบบน้้ำที่มักจะมีกลิ่นแรงกว่า)
2. ราคาค่อนข้างสูง 1,500 บาท
3. ต้องทานนานพอสมควรถึงจะเห็นผล
http://www.clg500.com/
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น