สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน วันนี้เจนอยากจะมีรีวิว
Lipstick ใหม่จาก Mistine Yes It's Lip Tint Marker & Smoother
คือเรื่องมีอยู่ว่าทางMistineได้ส่งลิปทั้งหมดสี่สีมาให้เจนได้ใช้
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร ปกติส่วนตัวเจนก็เคยใช้product หลายตัวจาก Mistine
ก็รู้สึกว่าเป็นbrand ไทยที่ถูกและดีมีคุณภาพ อย่าง Eyeliner ของนางที่ถูกและติดทนมากๆ
อันนี้เป็นสิ่งที่เจนประทับใจที่สุดของ Mistine เลยแหละ
และแล้ววันหนึ่งเจนก็ได้ลองเปิด Lip Tint Marker มาใช้ดู
"โอโห แม่เจ้าสีชัดและติดทนมากจริงๆค่ะ" อันนี้เพื่อนๆอาจจะหาว่าเจนโม้
ถ้าใครได้ติดตามเจนบน Facebook ก็น่าจะเห็นรูปที่เจนพึ่งตื่นนอน(หน้าสด)และมีสีลิปชัดมาก
พอดีว่าคืนนั้นเจนได้ลองใช้ พอจะล้างออกมันไม่หลุดเลยจ๊ะ เป็นtint ที่ติดทนมากๆ ไม่น่าเชื่อเลย
ว่าจะใช้ cleansing ก็แล้ว อาบน้ำกินข้าว แปรงฟันก็แล้วไม่ออกเลยจ๊ะ
ตกใจมาก และคิดว่าทำไมไม่ออกมาตั้งแต่ตอนช่วงสงกรานต์เนอะ
น่าจะติดทนถึงอีกวันแน่นอน
เอาละค่ะ เรามาเข้าถึงส่วนรีวิวและ swatch สีให้ดูดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนๆหาว่าเจนโม้ 5555
คุณสมบัติจากแบรนด์ สร้างเทรนด์ใหม่ กับการทาปากที่สามารถเนรมิตลูกเล่น และ เฉดสีบนริมฝีปากได้ถึง 10 แบบ 10 สไตล์ ที่ใครเห็นต้องร้อง ว้าววว !! ด้วยลิปทินท์รูปแบบใหม่ 2 เนื้อในแท่งเดียว ด้าน Tint Marker ดีไซน์สุดเก๋ในรูปแบบหัวปากกาเมจิก เขียนง่าย ให้สีสดชัดทันทีที่ทา ด้วยสูตรพิเศษอัดแน่นด้วยเนื้อสีแบบสุดๆ ผสานคุณสมบัติการสร้างฟิล์มสีเคลือบแบบสนิท และติดทนนาน แต่ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ด้วย "Air Fix Film" พร้อมการบำรุงจาก Sodium Hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เปล่งปลั่งให้แก่ริมฝีปาก ด้าน Smoother ลิปบาล์มสีนู้ดที่ช่วย Blend สีลิปสติกให้ดูไล่ระดับ จึงสร้างสรรค์รูปแบบความงามของสีสันบนริมฝีปากได้หลากหลายตามต้องการ พร้อมเติมความฉ่ำวาวให้ริมฝีปากดูระเรื่อด้วย Smoothing Film ผสานคุณค่าการบำรุงจาก Shea Butter และ Aloe Buter ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น จึงทำให้ริมฝีปากเนียนนุ่ม เปล่งประกายสวยใส ดูสุขภาพดี
แพคเกจ ดูดีเป็นเหมือน Marker ใช้ง่ายทาง่ายเพราะเล็กสามารถทาขอบปากได้คมและชัดเจน
ตัวด้ามจะมีสองข้าง ด้านหนึ่งจะเป็นหัว Marker จะเป็นสีลิป tint ส่วนอีกด้านจะเป็น Smoothing Film ที่จะช่วยบำรุงและส่วนตัวเจนชอบเอามาทา on top สีลิปเพื่อที่จะทำให้สีอ่อนลงและก็จะได้อีกลุคไปเลยค่ะ
ราคา 99 บาท ซึงถูกมากเลยเพราะเราได้สองด้านและคุณภาพของสีที่ชัดเจนมาก
บอกเลยว่าคุ้มนะคะ
สีสัน เอาละเจนจะswatch สีให้เพื่อนๆดูนะคะ
เค้ามีทั้งหมด 4 สี
01 แดง เรดพลัม (Red)
02 พีช พลีสซิ่ง (Peach)03 ชมพู พิงค์ สแมค (Pink)
04 ส้ม ออเร้นจ์ ชายน์ (Orange)
จากในรูป จะเห็นได้ว่าปากบนและปากล่างของเจนสีไม่เหมือนกัน
เพราะด้านบนคือสีจริงของลิปและปากล่างคือสีหลังจากการทา Smooting Film on top ค่ะ
อันนี้เป็นเทคนิกส่วนตัวนะคะ
เจนรู้สึกว่าถ้าทา Marker เดียวๆมันจะได้ลุค matte แต่สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ชอบ
finishing ที่ดูเป็น gloss นิดๆ เจนอยากจะแนะนำให้ลองทำแบบเจนดี ถ้าทาเยอะๆสีก็จะอ่อนลงนิดนึง
และเราก็จะได้ความเข้มอ่อนอย่างที่เราต้องการได้ และที่สำคัญบำรุงอีกด้วย
แต่ว่าถ้าไม่ต้องการให้สีอ่อนลง ก็ทา smooting film บางๆก็ไม่มีปัญหาค่ะ
หรือว่าถ้าเพื่อนๆอยากเอาไปทาเป็น base ก่อนที่จะลงสีลิปสติกที่ชอบก็ได้เช่นกันค่ะ
เจนพอใจนะคะกับราคาที่ไม่ถึง 100 บาท ได้ของดีสีลิปติดทนและ packaging ก็ไม่ได้แย่
ดูสวยดูดีมีราคาด้วยซ้ำไป
เจนรู้สึกว่าสาวๆควรจะมีลิปหลายๆสีติดตัวไว้นะ
เพราะว่าเห็นไหมว่าเจนแต่งหน้าลุคเดียว
แต่แค่การเปลี่ยนสีปากก็สามารถเปลี่ยนทั้งลุคให้ดูเป็นอีกคนได้แล้ว
อยากให้สาวๆมาลองสนุกกับการเปลี่ยนลุคตัวเอง
บ้างคนอาจจะบอกว่ายากเพราะแต่งหน้าไม่เก่ง
ไม่หรอกค่ะ แค่คุณมีลิปสติกที่ไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่การแต่งตา
วิธีอาจจะเดิมๆ สีอ่อนสีเข้มไล่กัน แต่ว่าสิ่งที่เปลี่ยนคือแค่สีสัน
เปลี่ยนแค่สีเพื่อนๆก็สามารถสนุกกับการแต่งหน้าได้มากขึ้นแล้วค่ะ
หวังว่ารีวิวในครั้งนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ
และเดี๋ยวเราเจอกันในรีวิวหน้าค่ะ <3